ใครที่กำลังเป็นเจ้าของธุรกิจหรือกิจการ ที่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ห้างหุ้นส่วนสามัญ, ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด หรือเป็นบุคคลธรรมดาที่เป็นนายจ้าง ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการหักภาษีเงินเดือนพนักงาน ที่ทางนายจ้างจะต้องเป็นคนดำเนินการ เพื่อยื่นเอกสาร ภ.ง.ด. 1 และ ภ.ง.ด. 1 ก ให้กับทางกรมสรรพากรในการหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า “ภงด 1 คือ อะไร ?” แล้วจะต้องยื่นเมื่อไหร่?
วันนี้ นรินทร์ทอง จะมาอธิบายเกี่ยวกับ ภ.ง.ด. 1 ว่าทำไมถึงเป็นเอกสารที่นายจ้างจะต้องเป็นผู้ยื่น และถ้าหากไม่ยื่นจะมีความผิดอย่างไร พร้อมกับวิธีในการคำนวณว่า รายได้เท่าไหร่ถึงจะอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องชำระภาษี ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันเลย!
ภ.ง.ด. 1 คือ?
การแสดงรายการของภาษีเงินได้ ที่มีการหัก ณ ที่จ่าย จากเงินได้ตามมาตรา 40(1) และ มาตรา 40(2) ถือว่าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับเงินเดือน, ค่าจ้าง, ค่านายหน้า, เบี้ยประชุม, ค่าล่วงเวลา และค่าอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน
ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเอกสาร ภงด 1 คือ ผู้ว่าจ้าง ที่ไม่ว่าจะเป็นองค์กรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาทั่วไป จะต้องดำเนินการส่งเอกสารให้กับทางกรมสรรพากร
เงินได้พึงประเมิน
- มาตรา 40(1) เป็นเงินได้ประเภทที่ 1 มาจากการจ้างแรงงานอย่าง เงินเดือนหรือว่าเงินที่ได้จากงานที่ทำประจำ เช่น เงินค่าจ้าง, เบี้ยเลี้ยง, โบนัส, เงิน OT และเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับผลประโยชน์จากการจ้างงาน
- มาตรา 40(2) เป็นเงินได้ประเภทที่ 2 จะเป็นเงินค่าจ้างทั่วไป โดยหน้าที่หรือว่าตำแหน่งงานที่ทำเท่านั้น เป็นได้ทั้งงานประจำหรืองานชั่วคราว เช่น ค่านายหน้าหรือค่าคอมมิชชั่น, ค่าตอบแทน และเบี้ยประชุม เป็นต้น
ภ.ง.ด. 1 แตกต่างกับ ภ.ง.ด. 1 ก อย่างไร?
‘ภ.ง.ด. 1’ กับ ‘ภ.ง.ด. 1 ก’ นายจ้างจะเป็นคนยื่นเอกสาร ซึ่งเป็นรูปแบบของการถูกเก็บภาษีจากทางภาครัฐเหมือนกันทั้งคู่ เพื่อแสดงสถานะในการได้รับเงินเดือนของพนักงานว่า ในแต่ละเดือนได้เงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ และถึงเกณฑ์ที่จะต้องได้รับการเสียภาษีหรือไม่ แต่เอกสารทั้ง 2 แบบจะมีความแตกต่างกันดังนี้
- ภ.ง.ด. 1 จะเป็นการยื่นรายได้ของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน, เงิน OT หรือสวัสดิการ ของแต่ละเดือน ซึ่งจะต้องยื่นชำระไม่เกินวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
- ภ.ง.ด. 1 ก จะเป็นการยื่นเงินได้ที่สะสมทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ หรือว่าถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ก็จะต้องแจ้งให้กับทางกรมสรรพากรได้ทราบในทุกๆ ปี โดยจะต้องยื่นเอกสารก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ของปีถัดไป
หากไม่ยื่นแบบจะมีความผิดอย่างไร?
สำหรับการยื่น ภ.ง.ด. 1 เป็นหน้าที่ของผู้ว่าจ้าง ที่จะต้องดำเนินการยื่นเอกสารให้กับทางกรมสรรพากร หากผู้ว่าจ้างไม่ทำการยื่นแบบของการหักภาษี ณ ที่จ่าย จะต้องรับผิดชอบดังนี้
- กรณีที่ไม่ได้นำแบบส่งภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือไม่ได้ยื่น จะต้องเสียค่าปรับแบบ 200 บาท และต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5 % ของภาษีที่ต้องชำระ คูณกับจำนวนเดือนที่ส่งแบบล่าช้า
- กรณีที่ไม่ยื่นแบบ เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการชำระภาษี จะมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วิธีในการคำนวณหักภาษีเงินได้
วิธีในการคำนวณเพื่อนำมาหาว่า จะต้องมีการเสียภาษีเป็นจำนวนเท่าไหร่ จะหักจากเงินได้สุทธิ โดยนำรายได้ทั้งปีของพนักงานมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ก็จะได้เป็นจำนวนเงินสุทธิ
หลังจากนั้นให้นำไปหาจำนวนภาษีที่ต้องชำระ (โดยใช้ภาษีตามขั้นบันได) หากรู้แล้วว่าภายในปีนั้นจะต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ให้นำไปหาร 12 เดือนต่อ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่า ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ต้องชำระในแต่ละเดือน
ตัวอย่างในการคำนวณหาเงินได้สุทธิ
- รายได้ต่อปี – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ
- 540,000 – 100,000 – (60,000 + 9,000) = 371,000 บาท
ภาษีแบบขั้นบันได
- 0 – 150,000 บาท : ไม่ต้องเสียภาษี
- 150,001 – 300,000 บาท : ภาษี 5% (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท)
- 300,001 – 500,000 บาท : ภาษี 10%
- 500,001 – 750,000 บาท : ภาษี 15%
- 750,001 – 1,000,000 บาท : ภาษี 20%
- 1,000,001 บาท – 2,000,000 บาท : ภาษี 25%
- 2,000,001 บาท – 5,000,000 บาท : ภาษี 30%
- เงินได้สุทธิมากกว่า 5,000,000 บาท : ภาษี 30%
วิธีการคำนวณภาษี
- ให้นำเงินได้สุทธิ 371,000 บาท มาคำนวณหาภาษี
- ขั้นแรกไม่ต้องเสียภาษี
- ขั้นที่สองจะเป็นการนำ 371,000 – 150,000 = 221,000 หลังจากนั้นให้นำยอด 221,000 บาท มาคำนวณตามฐานภาษี 150,000*5% เท่ากับต้องเสียภาษีในขั้นที่สอง 7,500 บาท
- ขั้นที่สามจะนำส่วนที่เหลือจาก 221,000 – 150,000 = 71,000 บาท มาคำนวนตามฐานภาษี 10% จะเป็น 71,000*10% เท่ากับต้องเสียภาษีในขั้นที่สาม 7,100 บาท
- นำ 7,500 + 7,100 = 14,600 หลังจากนั้นให้นำไปหาร 12 เท่ากับ 1,200.666 บาท ที่ต้องชำระภาษีต่อเดือน
หมายเหตุ: การหัก ณ ที่จ่ายในแต่ละเดือนมีโอกาสไม่เท่ากันตามเงินได้สุทธิ ในกรณีที่เรามีลดหย่อน และหักค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตามกฎหมายเงินได้ประเภท40(1) และ (2) ซึ่งจะสามารถหักได้สูงสุด 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
สามารถยื่นตามช่องทางไหนได้บ้าง?
สำหรับนายจ้างที่จะต้องทำการส่งแบบ ภ.ง.ด. 1 ของพนักงานที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ในการเสียภาษี ให้ดำเนินการเตรียมจัดส่งแบบให้ทางกรมสรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป โดยสามารถยื่นชำระได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา หรือทางเว็บไซต์กรมสรรพากร สำหรับใครที่ไม่สะดวกต่อการเดินทางมายังพื้นที่สาขา ซึ่งการยื่นแบบออนไลน์ จะให้ระยะเวลาเพิ่มอีก 7 วัน และถ้าหากวันที่ยื่นเป็นวันหยุด จะให้คุณสามารถยื่นได้อีกทีภายในจันทร์หรือวันแรกของสัปดาห์ที่เปิดทำการ
>>สามารถดู ปฏิทินภาษีอากร เพิ่มเติมได้ที่นี่<<
สรุปแล้ว ภ.ง.ด. 1 จำเป็นจะต้องยื่นหรือไม่?
ภ.ง.ด. 1 เป็นสิ่งที่นายจ้างหรือเจ้าของธุรกิจ มีการจ้างงานและมีค่าตอบแทนให้กับพนักงานหรือลูกจ้าง จนมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี จำเป็นต้องทำยื่นแบบให้กับทางกรมสรรพากรได้รับทราบ เพราะเป็นข้อกำหนดตามกฎหมาย เช่น หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้มีการยื่นแบบล่าช้าจะต้องเสียค่าปรับ หรือหลีกเลี่ยงที่จะไม่ชำระภาษีจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับใครที่กำลังเริ่มทำธุรกิจและมีลูกจ้าง แต่ไม่ได้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญทางด้านบัญชี การทำรายงาน รวมไปถึงภาษี แนะนำให้ปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์อย่าง นรินทร์ทอง จะช่วยให้การทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ภายในบริษัทของคุณคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับบัญชี
บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชี และภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
- รับทำเงินเดือนพนักงาน มีการคำนวณเงินเดือนพนักงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่ทำให้พนักงานได้รับเงินเดือนช้า หรือไม่ครบตามที่กำหนด
- ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
นรินทร์ทองอยากให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด
และรู้ทุกการเคลื่อนไหวทางการเงิน เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ใครมีข้อสงสัย ต้องการคำปรึกษา นรินทร์ทอง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339