การทำธุรกิจที่เกี่ยวกับของกิน เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจยอดฮิตไม่ว่าใครก็สามารถทำได้หรือเติมเต็มความฝัน ที่อยากจะทำอาหารแสนอร่อยให้ผู้บริโภคได้กิน ยิ่งปัจจุบันมีแอปเดลิเวอรี่ส่งอาหาร ถือว่าเป็นอึกหนึ่งช่องทางการขายของผู้ประกอบการ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี แต่ยังมีสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรลืม คือ บัญชีร้านอาหาร
สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวเปิดร้านอาหาร นอกจากการลงทุนซื้ออุปกรณ์ทำอาหารและซื้อวัตถุดิบแล้ว ยังมีเรื่องของบัญชีร้านอาหารที่คุณควรรู้อีกด้วย ทาง นรินทร์ทอง จึงได้รวบรวมข้อมูลเอาไว้ในบทความนี้ ว่าการเปิดร้านอาหารจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แล้วเราต้องทำการเก็บข้อมูลไหม และถ้าเป็นมือใหม่มีวิธีเตรียมตัวอย่างไร
บัญชีร้านอาหาร มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
หากพูดถึงค่าใช้จ่ายของบัญชีร้านอาหาร คุณต้องเข้าใจก่อนว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจ จะมีเรื่องของต้นทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยธุรกิจแต่ละประเภทจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีรายการที่คุณต้องบันทึก ดังนี้
- ค่าวัตถุดิบ การเปิดร้านอาหารแน่นอนอยู่แล้วว่าผู้ประกอบการจะต้องมีสูตรทำอาหาร ไม่ควรลืมคำนวณต้นทุนของสูตร จะได้รู้ว่าเมนูนี้ประกอบด้วยวัตถุดิบอะไรบ้าง และถ้าขายแบบเดลิเวอรี่ ต้องมีค่าแพ็กเกจจิ้งรวมไปด้วย ซึ่งการซื้อวัตถุดิบเข้าร้านถือว่าเป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ หากขายอาหารได้เยอะ ค่าวัตถุดิบก็จะสูงตาม
- ค่าทำการตลาด ธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างมีคู่แข่งเยอะ หากไม่ทำการตลาดจะทำให้อยู่ยากในธุรกิจนี้ จึงต้องมีตั้งงบประมาณทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จัก เช่น ยิงโฆษณาร้านให้ลูกค้ารู้จัก หรือจัดโปรโมชันสุดคุ้มเป็นชุดอาหารเอาไว้
- ค่าเดลิเวอรี่ สำหรับบางร้านที่อาจจะเริ่มต้นขายอาหารในบ้านของตัวเอง โดยส่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่หรือขายออนไลน์ ทางร้านจะถูกหักค่า GP (Gross Profit) อย่าลืมทำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ลืมจัดการต้นทุน
- ค่าแรง เจ้าของร้านอาหารบางรายที่มีหน้าร้านและจ้างพนักงานงาน ซึ่งอาจจะจ้างเป็นรายเดือนหรือรายวัน โดยมีค่า OT หรือ ค่าสวัสดิการพิเศษให้ด้วย จึงต้องลงบันทึกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ โดยวางแผนวิธีการจ่ายให้เหมาะสม เพื่อเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
- ค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ และค่าไฟ ในกรณีที่เป็นเจ้าของร้านอาหารและเช่าพื้นที่อีกที ทางผู้ประกอบการจะต้องรับภาระของค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และสาธารณูปโภคอื่นๆ ต้องคำนวณให้ดีว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ มีจำนวนเท่าไหร่ต่อเดือน จะได้สามารถนำไปคิดต้นทุนได้ถูกต้อง
- ค่าของที่เสีย การเปิดร้านอาหาร สิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องระวังให้ดีคือเรื่องของวัตถุดิบเสีย, วัตถุดิบเหลือ หรือทำอาหารผิดเมนู ทุกอย่างล้วนถือว่าเป็นเงินที่เราได้ลงทุนไป ทางที่ดีควรวางแผนให้ดี เพื่อป้องกันหรือลดโอกาสการเกิดปัญหานี้ให้ได้มากที่สุด
เปิดร้านอาหารต้องมีการเก็บข้อมูลหรือไม่?
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าการทำบัญชีร้านอาหาร จะต้องมีการลงบันทึกค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ขั้นตอนต่อมาคุณต้องมีการจัดเก็บข้อมูลให้ดีและเป็นระบบ เพราะการทำธุรกิจมีเรื่องของรายจ่ายรวมด้วย วิธีป้องกันความสับสนในการจ่ายเงิน เราสามารถกำหนดรอบที่จะจ่ายได้ เพื่อช่วยให้คุณรู้ว่าเงินที่จ่ายในตอนนั้นอยู่ในประเภทไหน หากมีการจ่ายที่สูงกว่าปกติจะได้วางแผนการใช้เงินในครั้งต่อไป
ซึ่งตอนที่เราจ่ายเงินออกไป ต้องเก็บเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินให้ครบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เปิดร้านอาหารในรูปแบบของนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ใบแจ้งหนี้, ใบกำกับภาษี และใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น เพื่อช่วยให้เราชำระภาษีได้น้อยลง ในการจัดเก็บเอกสารของค่าใช้จ่าย สามารถทำการบันทึกได้ด้วยการคีย์ข้อมูล, เก็บเอกสารใบจริง และทำสำเนา
ถ้าเรามีการจัดเก็บข้อมูลครบถ้วนและจดบัญชี จะทำให้สามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์รายจ่ายได้ เพื่อช่วยให้คุณรู้ว่า ธุรกิจมีรายได้ไหม, ลงทุนสูงเกินไปหรือเปล่า และรายจ่ายส่วนใหญ่เราซื้อหมดไปกับอะไร
เริ่มต้นเปิดร้านอาหารควรเตรียมตัวทำบัญชีอย่างไร?
- ทำรายรับ – รายจ่าย สำหรับใครที่กำลังคิดเริ่มต้นเปิดร้านอาหาร ต้องมีการทำบันทึกรายรับ – รายจ่ายอย่างละเอียด และมีการทำรายรับแยกกับรายได้รวมด้วย โดยแบ่งเลยว่าซื้อวัตถุดิบมาทั้งหมดกี่บาท, ในแต่ละวันขายออกกี่เมนู และมีรายรับเท่าไหร่ ค่อยนำมาสรุปยอดรวม ซึ่งการจดบันทึกนี้ควรจดรายการทุกอย่างพร้อมกับแนบบิลรายจ่ายเอาไว้
- นับสต๊อกอยู่เสมอ พวกวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงทำอาหารที่เราซื้อมาล้วนเป็นต้นทุน วิธีการคิดกำไร = รายได้ – รายจ่าย – สต๊อกคงเหลือ เพราะการขายอาหารเราต้องเตรียมแบกรับความเสี่ยง สำหรับเมนูที่ขายไม่ออกหรือวัตถุดิบเหลือ นี่ยังไม่รวมหักวัตถุดิบที่เสียอีกต่างหาก เราจึงต้องนับสต๊อกให้มีค่าเป็นปัจจุบัน จะได้นำข้อมูลมาวางแผนให้เป็นระบบ
- มีการออก – เก็บเอกสาร หากพูดถึงการทำบัญชีมักจะมีเรื่องของเอกสารเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่าง ใบกำกับภาษี, ใบเสร็จรับเงิน และใบเบิกเงินสดย่อย เป็นต้น ทางเจ้าของร้านอาหารจะต้องมีการออกเอกสารให้ถูกต้อง และจัดเก็บเอกสารให้ดี โดยอาจจัดเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาหรือใช้ Excel เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้การคีย์ข้อมูล เพื่อที่เราจะได้นำเอกสารหรือข้อมูลพวกนี้มาควบคุมค่าใช้จ่ายในอนาคต
- มีความรู้เกี่ยวกับภาษี เจ้าของร้านอาหารควรมีความรู้เกี่ยวกับภาษี ไม่ว่าจะเป็น ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นต้น เพราะถ้ากิจการมีการทำบัญชีที่ไม่ละเอียดหรือไม่ยื่นเสียภาษี ก็จะทำให้โดนภาษีย้อนหลังโดยไม่รู้ตัว
การทำบัญชีร้านอาหารไม่ใช่สิ่งที่ยาก หากรู้วิธีการจัดการอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายภายในร้าน, มีการเก็บข้อมูลอย่างถูกต้อง และมีความรู้เรื่องภาษี จะช่วยให้คุณมีการจัดเก็บข้อมูล ที่สามารถนำมาวิเคราะห์ด้านการเงินได้ สำหรับคนที่เป็นเจ้าของร้านอาหารมือใหม่ และไม่มีความรู้เรื่องของการทำบัญชี เลือกใช้บริการสำนักงานบัญชี นรินทร์ทอง เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยให้การเงินเป็นเรื่องง่าย
เลือกใช้บริการสำนักงานบัญชี ต้องที่นรินทร์ทอง!
บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชี และภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
- งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
- ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
นรินทร์ทองอยากให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด
และรู้ทุกการเคลื่อนไหวทางการเงิน เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
