บัญชีโรงแรม

บัญชีโรงแรม ที่ผู้ประกอบห้ามพลาด!

ธุรกิจโรงแรมเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนด้านการจัดการบัญชี เนื่องจากมีทั้งรายรับและรายจ่ายที่หลากหลาย ตั้งแต่ค่าห้องพัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงต้นทุนการดำเนินงานอื่น ๆ การบริหาร บัญชีโรงแรม อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมต้นทุน ลดความเสี่ยงทางการเงิน และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ในบทความนี้ เราจะพาท่านไปรู้จักกับแนวทางการทำบัญชีโรงแรมที่สำคัญกับเรา นรินทร์ทอง

บัญชีโรงแรม พื้นฐานที่เจ้าของกิจการควรรู้

ทำความเข้าใจรายได้ของธุรกิจโรงแรม
บัญชีโรงแรม

ธุรกิจโรงแรมมีแหล่งที่มาของรายได้หลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. รายได้จากค่าห้องพัก (Room Revenue)

  • รายได้หลักของโรงแรมมาจากการให้บริการห้องพักแก่ลูกค้า
  • รวมถึงค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าบริการเตียงเสริม ค่าเลทเช็กเอาต์

2. รายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Revenue)

  • รายได้จากร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ภายในโรงแรม
  • รายได้จากการให้บริการรูมเซอร์วิส หรือบุฟเฟ่ต์

3. รายได้จากการจัดประชุมและอีเวนต์ (Event & Conference Revenue)

  • รายได้จากการให้เช่าสถานที่จัดงานแต่งงาน ประชุม สัมมนา
  • บริการจัดเลี้ยง และอุปกรณ์เสริม เช่น ระบบเสียง โปรเจคเตอร์

4. รายได้จากบริการสปาและฟิตเนส (Spa & Wellness Revenue)

  • รายได้จากบริการนวด สปา ซาวน่า ฟิตเนส
  • รายได้จากคอร์สโยคะหรือเทรนเนอร์ส่วนตัว

5. รายได้จากบริการเสริมอื่น ๆ (Other Revenue)

  • ค่าจอดรถ หรือบริการรับส่งสนามบิน
  • รายได้จากมินิบาร์ในห้องพัก
  • รายได้จากค่าธรรมเนียมการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการจอง

การทำบัญชีโรงแรมที่ดีต้องมีการแยกรายได้แต่ละประเภทให้ชัดเจน เพื่อช่วยให้โรงแรมสามารถวิเคราะห์รายได้  และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                                   
ตัวอย่างการคำนวณรายได้จากลูกค้า

บัญชีโรงแรม

ข้อมูลการใช้บริการของนาย เอ

เข้าพัก 1 คืน ที่โรงแรม ราคาห้อง 2,500 บาท สั่งเครื่องดื่มจากบาร์โรงแรม 2 แก้ว ราคาแก้วละ 150 บาท ใช้บริการสปานวดไทย 1 ชั่วโมง ราคา 1,200 บาท

 คำนวณรายได้จากนายเอ

1️. ค่าห้องพัก = 2,500 บาท

2️. ค่าเครื่องดื่ม = 2 × 150 = 300 บาท

3️. ค่าบริการสปา = 1,200 บาท

รวมรายได้จากนาย เอ: 500+300+1,200=4,000 บาท

โรงแรมมีรายได้จากนายซันทั้งหมด 4,000 บาท จากการเข้าพัก เครื่องดื่ม และสปา


ตัวอย่างการบันทึกบัญชีเบื้องต้น

การบันทึกบัญชี (กรณีคิด VAT 7%)

  • หากโรงแรมจดทะเบียน VAT จะต้องแยกรายได้ออกเป็น

รายได้ก่อน VAT
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%)

 

การคำนวณ:

  • ยอดรวม 4,000 บาท → ต้องแยก VAT 4,000 ÷ 1.07
  • รายได้ก่อน VAT = 3,738.32 บาท
  • VAT = 261.68 บาท

 

รายได้ที่น่าสนใจของธุรกิจโรงแรม

รายได้ของโรงแรมไม่ได้มาจากค่าห้องพักเพียงอย่างเดียว ยังมีแหล่งรายได้อื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น เงินมัดจำ ซึ่งมักเป็นประเด็นที่เจ้าของธุรกิจโรงแรมบางรายอาจเกิดความสับสนในการบันทึกบัญชี การบันทึกเงินมัดจำเป็นขั้นตอนที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง

ค่ามัดจำที่โรงแรมได้รับ ควรบันทึกบัญชีอย่างไร?
บัญชีโรงแรม

ค่ามัดจำที่โรงแรมได้รับจากลูกค้า ถือเป็น “หนี้สินหมุนเวียน” ในบัญชี เพราะยังไม่ถือเป็นรายได้จนกว่าลูกค้าจะเข้าพักหรือใช้บริการจริง

                                                  
กรณีรับค่ามัดจำก่อนวันเข้าพัก

ตัวอย่าง:

  • นาย เอ จองห้องพัก และโรงแรมเรียกเก็บ ค่ามัดจำ 1,000 บาท
  • ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีโรงแรม

การบันทึก บัญชีโรงแรม (วันที่รับมัดจำ)

เดบิต (Dr)
เงินสด / เงินฝากธนาคาร            1000 บาท
                    เครดิต (Cr)
เงินมัดจำค่าห้องพัก (หนี้สิน)    1,000 บาท

บัญชีจะต้องบันทึกเป็นหนี้สิน เพราะยังไม่ถือเป็นรายได้จนกว่าลูกค้าจะเข้าพัก

กรณีลูกค้าเข้าพัก และนำค่ามัดจำมาหักจากค่าห้องพัก

ตัวอย่าง:

 

นาย บี เข้าพัก ห้องราคา 2,500 บาท

ใช้ค่ามัดจำ 1,000 บาท

จ่ายเพิ่มอีก 1,500 บาท

 

การบันทึกบัญชี (วันที่ลูกค้าเข้าพัก)

 

เดบิต (Dr)

เงินมัดจำค่าห้องพัก (หนี้สิน)      1,000 บาท

เงินสด / เงินฝากธนาคาร            1,500 บาท

                           เครดิต (Cr)

                            รายได้ค่าห้องพัก                     2,500 บาท

 

เงินมัดจำถูกนำมาหักจากค่าห้องพัก จึงต้องโอนจากบัญชีหนี้สินไปเป็นรายได้จริง

 

สรุปหลักการบันทึก บัญชีโรงแรม ค่ามัดจำ

บัญชีโรงแรม

รับเงินมัดจำ → บันทึกเป็น หนี้สิน (ยังไม่ใช่รายได้)

ลูกค้าเข้าพัก → ย้ายจาก หนี้สิน ไปเป็น รายได้

ลูกค้ายกเลิกและคืนเงิน → ตัดบัญชีหนี้สินและจ่ายเงินคืน

ลูกค้ายกเลิกแต่โรงแรมไม่คืนเงิน → ย้ายจาก หนี้สิน ไปเป็น รายได้ค่าปรับ

 

ทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายธุรกิจโรงแรม
บัญชีโรงแรม

ค่าใช้จ่ายธุรกิจโรงแรม

ธุรกิจโรงแรมมีค่าใช้จ่ายหลายประเภทที่เจ้าของกิจการต้องคำนึงถึงเพื่อบริหารจัดการต้นทุนและทำกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ ค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed Costs) และ ค่าใช้จ่ายผันแปร (Variable Costs)

1. ค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed Costs)

ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำ ไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่เข้าพัก ได้แก่:

  • ค่าเช่าที่ดินหรือค่าผ่อนอสังหาริมทรัพย์ (หากไม่ได้เป็นเจ้าของที่เอง)
  • ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
  • ค่าจ้างพนักงานประจำช่น ผู้จัดการโรงแรม, พนักงานทำความสะอาด, พนักงานต้อนรับ
  • ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำประปา, ค่าอินเทอร์เน็ต
  • ค่าบำรุงรักษาอาคารและอุปกรณ์ เช่น การซ่อมบำรุงแอร์, ระบบน้ำ, ระบบไฟ
  • ค่าการตลาดและโฆษณา เช่น ค่าทำเว็บไซต์, ค่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มจองที่พัก (Agoda, Booking.com)
  • ค่าประกันภัยธุรกิจ เช่น ประกันอัคคีภัย, ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก

2. ค่าใช้จ่ายผันแปร (Variable Costs)

ค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงตามจำนวนลูกค้าที่เข้าพัก ได้แก่:

  • ค่าวัสดุอุปกรณ์สำหรับห้องพัก เช่น ผ้าปูที่นอน, สบู่, แชมพู, ผ้าเช็ดตัว
  • ค่าแรงพนักงานรายวัน/รายชั่วโมง เช่น พนักงานทำความสะอาดรายวัน
  • ค่าสาธารณูปโภคที่ขึ้นตามการใช้งาน เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้าจากการใช้แอร์หรือเครื่องทำน้ำอุ่น
  • ค่าของใช้ในครัว/ร้านอาหาร (ถ้ามีบริการ) เช่น ค่าวัตถุดิบอาหารเช้า, ค่าเครื่องดื่ม
  • ค่าคอมมิชชั่นให้แพลตฟอร์มจองโรงแรม เช่น Agoda, Booking.com ที่คิดค่าคอมมิชชั่นประมาณ 10-20%


ค่าใช้จ่ายที่น่าสนใจของธุรกิจโรงแรม

บัญชีโรงแรม
บัญชีโรงแรม สินทรัพย์ และ วัสดุสิ้นเปลือง

ในธุรกิจโรงแรม การบริหารจัดการ สินทรัพย์ และ วัสดุสิ้นเปลือง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การบันทึกบัญชีถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่อง ค่าเสื่อมราคา ที่ใช้กระจายมูลค่าของสินทรัพย์ระยะยาวตามเวลา ขณะที่ วัสดุสิ้นเปลือง จะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทันทีเมื่อมีการใช้งาน

1. สินทรัพย์ (Assets) 

สินทรัพย์ในธุรกิจโรงแรม ได้แก่ สิ่งที่ใช้ในระยะยาว เช่น อาคาร, เฟอร์นิเจอร์, หรือเครื่องจักรต่างๆ หากมีการซื้อจะถือเป็นสินทรัพย์ของบริษัท โดยอยู่ในหมวดของสินทรัพย์ หากมีการใช้งานต้องมีการคิดค่าเสื่อมราคาและจะต้องบันทึกเป็นค่าเสื่อม เพื่อลดมูลค่ของสินทรัพย์ ในทุกปี เช่น

  • ตัวอย่าง: เครื่องปรับอากาศ
  • การบันทึก: เมื่อซื้อเครื่องปรับอากาศ 50,000 บาท และคำนวณค่าเสื่อมราคา 10% ต่อปี
    • เดบิต (Debit): ค่าเสื่อมราคา 5,000 บาท (หากบันทึกในปีแรก)
    • เครดิต (Credit): สะสมค่าเสื่อมราคา 5,000 บาท

2. วัสดุสิ้นเปลือง (Supplies)

วัสดุสิ้นเปลืองหมายถึงสิ่งที่ใช้ในกิจการภายในระยะสั้นและไม่สามารถใช้งานซ้ำได้ เช่น ผ้าปูที่นอน, สบู่, หรือเครื่องเขียน ซึ่งหากมีการใช้งานจะบันทึกเป็น ค่าใช้จ่ายทันที 

  • ตัวอย่าง: ผ้าขนหนู, สบู่, น้ำมันหอมระเหย
  • การบันทึก: เมื่อซื้อวัสดุสิ้นเปลือง 10,000 บาท
    • เดบิต (Debit): วัสดุสิ้นเปลือง 10,000 บาท
    • เครดิต (Credit): เงินสด/เจ้าหนี้การค้า 10,000 บาท

 

ค่าใช้จ่ายแพลตฟอร์มจองห้องพัก

บัญชีโรงแรม
การบันทึกบัญชีค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้กับแพลตฟอร์มจองห้องพักออนไลน์ เช่น Booking.com และ Agoda ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรม โดยมักจะถูกจัดเป็นค่าใช้จ่ายการตลาดหรือค่าใช้จ่ายในการขาย (Selling Expenses) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหาลูกค้าและการทำการตลาด สำหรับการบันทึกบัญชี สามารถทำได้ดังนี้:                        

ประเภทค่าใช้จ่าย

ค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้กับแพลตฟอร์มจองห้องพักออนไลน์จะถูกจัดอยู่ในหมวดค่าใช้จ่ายการตลาดหรือค่าใช้จ่ายในการขาย

ตัวอย่าง:

  • ค่าคอมมิชชันจากแพลตฟอร์ม (ก่อน VAT) = 1,000 บาท
  • VAT 7% = 70 บาท
  • ค่าคอมมิชชันรวม VAT = 1,070 บาท

ตัวอย่างการบันทึก:

  1. เมื่อชำระค่าคอมมิชชันให้แพลตฟอร์ม:
    • เดบิต:
      • ค่าใช้จ่ายค่าคอมมิชชันจากแพลตฟอร์ม 1,000 บาท
      • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Input) 70 บาท
    • เครดิต:
      • เงินสด 1,070 บาท (หากชำระเงินสด)
        หรือ
      • เจ้าหนี้การค้า 1,070 บาท (หากยังไม่ได้ชำระเงิน)
  2. เมื่อชำระ VAT ให้สรรพากร:
    • เดบิต:
      • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Input) 70 บาท
    • เครดิต:
      • เงินสด 70 บาท (หากชำระด้วยเงินสด)
        หรือ
      • เจ้าหนี้ภาษีมูลค่าเพิ่ม 70 บาท (หากชำระในภายหลัง)

 

สรุป บัญชีโรงแรม ที่ผู้ประกอบห้ามพลาด!

การทำบัญชีโรงแรมเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เพราะมีผลโดยตรงต่อธุรกิจ การวางแผนบัญชีที่ดีช่วยให้โรงแรมสามารถควบคุมต้นทุน บริหารรายรับ-รายจ่าย และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้อย่างถูกต้อง บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 02-404-2339

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า