โรงพยาบาลสัตว์เสียภาษีอย่างไร ?

ในปัจจุบันคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น สามารถเห็นกันได้ชัดเจนเลยว่า ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในไทยเติบโต โดยเฉพาะโรงพยาบาลสัตว์ที่มีการให้บริการอย่างครบวงจร นอกจากการรักษาอาการป่วย เป็นสถานที่รับฝากเลี้ยง, มีอาหารหรือสินค้าจำหน่าย และอาบน้ำ – ตัดขน เป็นต้น หากใครที่กำลังเริ่มต้นอยากเป็นเจ้าของธุรกิจประเภทนี้ คุณต้องรู้ก่อนว่า โรงพยาบาลสัตว์เสียภาษีอย่างไร และต้องวางแผนภาษีแบบไหน กับ นรินทร์ทอง

 

โรงพยาบาลสัตว์เสียภาษีอย่างไร ?

การเสีย ภาษีคลินิกรักษาสัตว์ นับว่าเป็นภาษีเงินได้จากกิจการโรงพยาบาลสัตว์ ตามลักษณะของเงินได้ในมาตรา 40 (8) หรือ ประเภทที่ 8 จึงต้องมีการนำส่งภาษีให้กับทางกรมสรรพากร ดังนี้

ประกอบธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล

โรงพยาบาลสัตว์เสียภาษีอย่างไร

ธุรกิจแบบบุคคลธรรมดา ถือว่าเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว ทำให้การคิดภาษีเป็นแบบ ‘ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา’ ที่มีการหักค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง โดยมีการชำระภาษี 2 ครั้งต่อปี คือ

  • แบบ ภ.ง.ด.94 : ผู้ที่มีเงินได้ตามประเภทที่ 5-8 คือ รายได้ไม่คงที่ ต้องนำส่งแบบแสดงรายการภาษีกลางปี ตั้งแต่เดือนมกราคม – เดือนมิถุนายน ในช่วงกรกฎาคม – กันยายนของปี
  • แบบ ภ.ง.ด.90 : เป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคมหรือทั้งปี ที่ต้องยื่นภาษีในช่วงมกราคม – มีนาคมของปีถัดไป

ธุรกิจแบบนิติบุคคล สามารถมาในรูปแบบของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ที่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ประกอบกิจการรักษาสัตว์ ต้องเสีย ‘ภาษีเงินได้นิติบุคคล’ จากกำไรสุทธิสูงสุด 20%

  • แบบ ภ.ง.ด.51 : แสดงรายการภาษีเงินได้ของนิติบุคคล ตามครึ่งรอบระยะเวลาของบัญชี โดยยื่นแบบนี้พร้อมกับชำระภาษี (ถ้ามี) ภายใน 2 เดือนนับจากวันสุดท้ายของ 6 เดือนแรกตามรอบบัญชี
  • แบบ ภ.ง.ด.50 : เมื่อถึงช่วงสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ต้องยื่นแบบนี้ภายใน 150 วัน นับตั้งแต่วันสุดท้ายของรอบบัญชี พร้อมกับแนบแบบบัญชีงบดุล, บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุนร่วมด้วย

 

การเสียภาษีประเภทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

โรงพยาบาลสัตว์เสียภาษีอย่างไร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการเรียกเก็บภาษีจากการขายสินค้าหรือบริการในอัตรา 7% และนำส่งให้กับทางกรมสรรพากร ซึ่งตามกฎหมายภาษีแล้วการเปิดให้บริการในรูปแบบของคลินิกรักษาสัตว์ จะมีข้อบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีการนำรายได้มาเป็นฐานภาษี เพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงแบ่งออกเป็น 2 กรณี

  • มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ไม่ว่าจะเป็นการประกอบธุรกิจในนามบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หากมีรายได้ถึงเกณฑ์จะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีเงินเกิน
  • มีรายได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คือไม่ต้องจดทะเบียนและไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าผู้ประกอบการต้องการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้แจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอจดทะเบียน ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่แจ้ง

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ทางโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์ จะต้องมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายอยู่ด้วยกัน 2 อัตรา คือ ‘หักอัตรา 1%’ เป็นการจ่ายเงินค่ารักษาในนามรัฐบาล และ ‘หักอัตรา 3%’ กรณีที่ทางคลินิกมีการว่าจ้างพนักงานและจ้างบุคคลภายนอก หรือ กรณีที่ผู้จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลสัตว์ในนามบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ตามคำสั่งของกรมสรรพากร

ภาษีป้าย การเปิดโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์ต้องมีป้าย เพื่อช่วยระบุว่าสถานประกอบการอยู่ตรงไหน และมีการเก็บภาษีป้ายกับทางผู้ประกอบการ ซึ่งอัตราการเก็บจะมีความแตกต่างกันออกไป เพราะขึ้นอยู่กับภาษาที่ใช้ เป็นป้ายอักษรไทยล้วน, ป้ายอักษรไทยผสมอักษรต่างประเทศ, ป้ายที่มีอักษรปนกับภาพหรือเครื่องหมายอื่น และตำแหน่งของการจัดวางอักษร – เครื่องหมาย เป็นต้น

 

วิธีวางแผนภาษีกับการเปิดโรงพยาบาลสัตว์

  • เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มธุรกิจ : ในส่วนนี้จะเป็นการจัดเตรียมระบบรับเงิน เช่น ติดต่อทำเรื่องเครื่อง EDC หรือ QR Code รับเงิน และเงินสดที่ต้องมีทอน รวมไปถึงการนำเครื่อง POS มาใช้ เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน เพราะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงาน
  • การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม : แนะนำให้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ ทางสรรพากรมองว่าเป็นธุรกิจที่ฟุ่มเฟือย จากรายละเอียดการรักษา อย่าง ค่ารักษาพยาบาล, ค่าบริการอุปกรณ์ทางการแพทย์ และค่ายา เป็นต้น โดยต้องตรวจสอบให้ดีว่า รายการไหนมีภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่มี (อย่าลืมตั้งค่าเครื่อง POS ว่ารายการไหนมี VAT เพื่อความสะดวก)
  • ทรัพย์สินในคลินิก : ต้องนำอุปกรณ์ทั้งหมด มาจัดทำรายละเอียดของทรัพย์สิน โดยแบ่งว่ารายการนั้นคืออะไร, มีมูลค่าเท่าไหร่ และดูอายุการใช้งานร่วมด้วย เพื่อเปรียบเทียบกับราคาตลาดตามความเหมาะสม ที่สำคัญทรัพย์สินที่มีนำมาเป็นค่าเสื่อมได้ จะสามารถลงเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท
  • ที่ดินและตัวอาคาร : ในกรณีที่ผู้ประกอบการ เช่าที่ดินเปล่ามาทำธุรกิจ ต้องหัก ณ ที่จ่าย 5% เพื่อนำส่งกรมสรรพากรทุกเดือน และถ้าลงทุนปลูกสร้างอาคารเอง ต้องมีการทำสัญญางานก่อสร้างทั้งหมด รวมค่าตกแต่งภายในอาคารด้วย เพื่อนำมาบันทึกทรัพย์สินและคิดค่าเสื่อมราคาในอนาคต
  • เงินเดือนพนักงาน : ควรตั้งระบบการจ่ายเงินเดือน เพื่อเป็นการแยกระหว่างพนักงานประจำที่มีประกันสังคม, นำส่ง ภ.ง.ด.1 ทุกเดือน และสรุป ภ.ง.ด.1ก เป็นต้น ถ้าจ้างบุคคลภายนอกก็ให้หัก ณ ที่จ่าย 3% และนำส่งให้กับกรมสรรพากร
  • ค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ : ในกรณีที่เปิดธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ในนามบริษัท ต้องตรวจสอบให้ดีว่าในใบเสร็จเป็นชื่อที่ถูกต้องของบริษัท เพื่อที่จะได้นำค่าใช้จ่ายในการรักษา, ยา และอุปกรณ์ มาลงบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้

 

ใครที่เป็นผู้ประกอบการทำธุรกิจเปิดโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์ หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว จะช่วยให้คุณได้เข้าใจเกี่ยวกับภาษีมากขึ้น ไม่ว่าจะในรูปแบบของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล รวมไปถึงภาษีประเภทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับวิธีการเตรียมตัววางแผนภาษีก่อนทำธุรกิจ

แต่ถ้าเจ้าของธุรกิจคนไหนไม่มั่นใจ ว่าตัวเองมีการเตรียมพร้อมที่ถูกต้องหรือไม่ และมีข้อสงสัยในด้านอื่นๆ สามารถใช้บริการสำนักงานบัญชี นรินทร์ทอง เพื่อให้การดำเนินเรื่องของภาษีมีความถูกต้องตามกฎหมาย และหมดกับปัญหาที่ตามมาให้ปวดหัว

 

การเสียภาษีไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ที่นรินทร์ทอง!

บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชี และภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

 

นรินทร์ทองอยากให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด

และรู้ทุกการเคลื่อนไหวทางการเงิน เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

 

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า