จ่าย ค่าโฆษณา Facebook เสีย ภาษี อย่างไร?

การแข่งขันที่ขายของบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ นอกจากทักษะในการตอบแชทของพ่อค้าแม่ค้าแล้ว ยังมีตัวช่วยอย่างการยิงโฆษณา จะทำให้ลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายได้เห็นสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น และอาจทำให้ลูกค้ารายเก่ากลับมาซื้ออีกครั้ง หากใครที่สนใจยิง Facebook Ads แต่ไม่รู้ว่า ค่าโฆษณา มีการเสีย ภาษี อย่างไร?

ทาง นรินทร์ทอง จึงอยากพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำโฆษณาออนไลน์ ว่าต้องมีการเสียภาษีในรูปแบบใด, สามารถตั้งค่าใบเสร็จอย่างไรได้บ้าง และถ้าไม่นำส่งภาษีจะได้รับบทลงโทษหรือไม่ บทความนี้คำตอบให้กับคุณ!

 

ค่าโฆษณา Facebook ภาษี ที่ต้องเสียมาในรูปแบบใด?

ค่าโฆษณา Facebook ภาษี

คุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การทำโฆษณา Facebook ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ E-Service เพราะเป็นบริการที่ถูกสร้างขึ้นบนอินเทอร์เน็ต และมีความสามารถในการช่วยอำนวยความสะดวกต่อการโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ โดยมีกฎหมาย E-Service ที่ทางกรมสรรพากรเรียกเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากผู้ให้บริการต่างประเทศและแพลตฟอร์มต่างประเทศ ซึ่งเป็นบริการทางออนไลน์ ที่มีผู้ใช้ภายในประเทศไทย และรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

ผู้ประกอบการจะต้องเป็นผู้จ่ายหรือเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ให้กับทางกรมสรรพากร โดยยื่นแบบ ภ.พ.36 เพราะบริษัทของ Facebook ไม่ได้อยู่ภายในประเทศไทย และสามารถทำการบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ เพื่อช่วยให้คุณทำเรื่องเบิกได้ตามปกติ ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ใช้สิทธิภาษีซื้อได้อีกด้วย หากเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีการยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

กรณีที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ต้องทำยังไงบ้าง?

ค่าโฆษณา Facebook ภาษี

ผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี และทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้ว จะต้องตั้งค่าในระบบ Facebook ตามขั้นตอน ดังนี้

  • ตั้งค่าการชำระเงิน วิธีการตั้งค่าการชำระเงินให้เข้าไปในระบบหลังบ้าน หรือ Facebool Ads Manager และคลิกที่ Billing หลังจากนั้นให้เข้าไปที่ Payment Setting
  • กรอกข้อมูลธุรกิจ ภายในหน้าของ Payment Setting ในส่วนของ Business Info ให้คุณทำการแก้ไขข้อมูลหรือ Edit เพื่อกรอกข้อมูลของธุรกิจลงไป โดยใส่ชื่อ ที่อยู่ และเลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี (Tax ID) ของบริษัทให้ถูกต้องก่อนทำการบันทึก

 

ค่าโฆษณา Facebook ภาษี

ถ้าคุณตั้งค่าการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องดึงข้อมูลรายงานของค่าใช้จ่ายโฆษณา Facebook ให้เข้าไปที่ Billing > เลือกช่วงระยะเวลาที่เราต้องการเก็บข้อมูล > คลิกที่ Update หลังจากนั้นระบบก็จะประมวลผลออกมา และทำการ Download

ในตอนที่คลิก Download จะมีตัวเลือกให้กับคุณ 3 ตัวเลือก ถ้าคุณต้องการขอใบเสร็จของค่าโฆษณา Facebook และนำไปใช้ยื่นภาษี ต้อง ‘Download report (PDF)’ เพราะหลังจากที่คุณใส่ข้อมูลใน Business Info แล้ว ใบเสร็จมีการระบุถึงชื่อของบริษัท และหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (VAT ID) จะช่วยให้สามารถนำแบบ ภ.พ.36 ไปยื่นได้

 

การยื่นแบบ ภ.พ.36

การที่บริษัทของคุณมีการทำธุรกรรม ที่ใช้บริการจากผู้ประกอบการในต่างประเทศ หรือเป็นบริษัทที่ไม่ได้จัดตั้งอยู่ภายในประเทศไทย ต้องทำแบบ ภ.พ.36 เพื่อเป็นการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้กับผู้ประกอบการที่อยู่นอกประเทศ โดยคุณสามารถทำการยื่นได้ 2 วิธี

  1. นำส่งที่สำนักงานสรรพากร คุณสามารถนำไปยื่นได้ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป ในพื้นที่สาขาใกล้เคียง หรือภูมิลำเนาของผู้นำส่ง
  2. นำส่งที่ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ช่วงระยะเวลาของการยื่นจะขยาย เป็นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยนำส่งได้ที่เว็บไซต์ของ E-FILING

ซึ่งการนำส่งแบบ ภ.พ.36 สามารถมาบันทึกการทำบัญชีได้ การทำโฆษณาออนไลน์ก็จะเป็นรายจ่ายทางภาษีของธุรกิจ ที่ขอเครดิตภาษีซื้อภายในเดือนถัดไปได้ แต่ต้องมีการนำใบเสร็จรับเงินของ ภ.พ.36 ไปกรอกรายละเอียดในภาษีซื้อ พร้อมกับยื่นแบบ ภ.พ. 30 ภายในวันที่ 23 ของเดือนถัดไป

กรณีที่โดนปรับ

  • ไม่ส่งภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกคำนวณและชำระเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน และถ้าเป็นเศษของเดือนก็จะถูกคิดเป็น 1 เดือน เช่นกัน
  • นำส่งแบบได้ไม่ถูกต้องหรือไม่ได้นำส่ง ถ้าผู้รับโอนสินค้าหรือผู้มีสิทธิในบริการ ยื่นแบบที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ยื่นแบบ จะถูกคำนวณและชำระเงินเบี้ยปรับ 1 – 2 เท่า

>>> คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด แบบ ภ.พ.36 <<<

 

การยื่นแบบ ภ.พ.36 มีความสำคัญอย่างไร?

หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การยื่นแบบ ภ.พ.36 จะช่วยให้คุณนำไปบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายได้ตามกฎหมาย และที่สำคัญถ้าคุณมีค่าโฆษณาที่ต้องชำระเงินในมูลค่าสูง จนทำให้ถูกเก็บภาษีสูงตาม ก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเสียเงินไปโดยสูญเปล่า เพราะคุณสามารถใช้เป็นภาษีซื้อ เพื่อหักกับภาษีขายในธุรกิจได้

นอกจากการคิดภาษีค่าโฆษณา Facebook แล้ว ยังมีการเก็บภาษีในรูปแบบอื่นๆ จากการทำธุรกิจออนไลน์อีกด้วย ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับภาษี และรู้สึกว่าการคิดหรือเสียภาษีเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก ทางที่ดีให้ติดต่อไปยังสำนักงานบัญชีอย่าง นรินทร์ทอง เพราะเราจะทำให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย หมดกังวลกับปัญหาที่โดนค่าปรับโดยที่ไม่รู้ตัว

 

ไม่มีความรู้เกี่ยวกับภาษี ต้อง นรินทร์ทอง !

บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชี และภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

 

นรินทร์ทองอยากให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด

และรู้ทุกการเคลื่อนไหวทางการเงิน เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

 

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า